สมาธิ 3 ระดับ
ถ้าไปคิดอย่างนี้เรียกว่า ผู้หวังผล ไม่ใช่ผู้มองเหตุ จิตก็ยิ่งฟุ้งซ่าน นิ่งไม่เป็น ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำเรื่อยไป นั่นแหล่ะจะเป็นไวที่สุด อารมณ์จะกลมกล่อมที่สุด เป็นไวที่สุด อันนี้เล่าสู่ฟัง ทีนี้อาตมาจะต่อเติมของเก่าซ้ำอีกทีหนึ่ง ให้พวกเราได้เข้าใจ ขอเวลาอีกสักนิดนึง ไม่ยาว การเข้าสมาธิหรือการทำสมาธินี่ประเสริฐ ไม่มีอะไรเทียบได้ อาตมาเคยอ้างเสมอว่าอริยะชน
ในครั้งสมัยนั้น มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ซึ่งพระองค์เองก่อนที่จะตรัสรู้ธรรมนั้น พระองค์ยังนึกอะไรต่าง ๆ นานัปการ เวลาหิวก็นึกถึงอาหารอันโอชาที่สนมกำนัลในนำมาถวาย ในคราวที่อยู่เปลี่ยว ๆ เกิดเศร้า ๆ ก็นึกถึงยโสธราคู่ใจ อันนี้อยู่ตลอดเวลา มามองถึงสิ่งเหล่านี้นั้นเป็นความสุขอันประเสริฐ การเสวยพระกระยาหารก็ดี การเกี่ยวข้องกัยยโสธราก็ดี สิ่งเหล่านี้ประเสริฐ อยู่อย่างนี้ตลอดเวลา จนกระทั่งพระองค์ตรัสรู้ธรรมแล้วจึงได้มองเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสุข เป็นเรื่องของความทุกข์ ไปยึดเอาความทุกข์มาเป็นความสุขเท่านั้น มีอยู่อย่างนั้น แกละพระองค์ไม่เคยมองสิ่งเหล่านั้นประเสริฐกว่าธรรมมะ ธรรมมะประเสริฐกว่าสิ่งเหล่านั้น พระองค์อยู่ในธรรมมะของพระองค์ท่านตลอดชีวิต บรรดาพระอริยะเจ้าทั้งหลายที่ตรัสรู้ธรรมตามพระพุทธเจ้านั้น ขอทานก็มี เศรษฐีก็มี มหาเศรษฐีก็มี คหบดี คหบดีมหาศาล สารพัดทุกอย่าง กษัตริย์ มหากษัตริย์ ตรัสรู้ธรรมตามพระองค์ แต่ละท่านนั้นไม่มีถอยหลัง ไม่มีถอยหลังเด็ดขาด ดื่มด่ำอยู่ในธรรมมะของแต่ละท่านตลอดชีวิตของแต่ละองค์ ซึ่งเป็นอยู่อย่างนั้น ไม่เคยปรากฏว่าถอยหลังออกมา นอกจากปัจจุบันนี้แหล่ะอรหันต์สมัยใหม่ สมมุติตัวเองมาหลอกหลวงชาวโลกเขา เออว่าฉันเป็นพระอรหันต์ แต่ยังประพฤติเลวทรามนานัปการนั้น เราอย่าไปเชื่อถือ เราเอาครั้งสมัยพุทธกาลเป็นเกณฑ์ นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นเกณฑ์ เราไม่ต้องยึดใครเป็นครูอาจารย์ ยึดพระพุทธเจ้าดีหว่า เป็นหลัก เพราะนั้นขอให้พวกเราเข้าใจนี้
เพราะนั้นการทำสมาธินั้นประเสริฐเลิศหาที่สุดมิได้ จะเอาเพียงแค่นิด ๆ มาเล่าสู่ฟัง ขอเวลาอีกนิดนึงนะ เอาแค่ขณิกะสมาธิเนี่ย นะ ถ้าเราทำสมาธิตะล่อมจิตให้อยู่ในวงแคบ เอาพุทโธเป็นคู่ของใจอยู่เสมอ พุทโธ พุทโธ ทำอยู่เสมอ เสมอ ตะล่อมอยู่ในวงแคบนี่ เอาแค่ตื้น ๆ ภพเบื้องต้น นิดเดียงนั่นเอง เอาแค่เข้าสู่ขณิกะสมาธินี่ จะซาบซึ้งที่สุด ดีที่สุดไม่มีอะไรเทียบ แต่ขณิกะนี่ไม่พ้นเสียงนะ เสียงได้ยินอยู่แต่ไม่รำคาญ ถ้าเสียงดัง ๆ ฟาดเปรี้ยงลงเนี่ยวูบขึ้นมา แต่ประคองลงได้ แต่ไม่พ้นเสียง แต่ประคองได้ แต่ความสุขเป็นอย่างไร โอ้โห ซาบซึ้งเหมือน ๆ ได้ยาทิพย์ชโลมไปทั้งตัว นั่งสามสี่ชั่วโมงสบาย ๆ ไม่มีทุกข์ ไม่กดไม่ดัน ไม่กดไม่กั้น ไม่มีอะไร มีแต่ความสุข ยาทิพย์ชโลมไปหมดทั้งตัวทุกเส้นทุกเอ็น สลายมีความสุขเหลือประมาณที่สุด อยากให้ลองดูซิ ได้แค่นี้จะได้มองเห็นหน้าเห็นตาของความสุข มาจากบรมสุข ไม่ใช่สุขเจืออภิราคะ เป็นความสุขแบบบรมสุข สุขจากใจจริง ๆ สุขจากความสงบ อยากให้ลองดู อยากให้ลองดู่แค่นี้ ประเสริฐที่สุดแล้ว ประเสริฐจริง ๆ ในเมื่อถอนสมาธิออกมาแล้ว รู้จักอกเขาอกเรา มีความเมตตาอารีย์ต่อผู้อื่น แม้นว่าเราจะดุเขาบ้างเราจะทำอย่างโน้นอย่างนี้บ้าง จุดเป้าหมายของเรามุ่งเพื่อธรรม ไม่ได้ทำเพื่อความฉิบหายตายโหง ทำเพื่อจะสงเคราะห์ ทำเพื่อจะนำพาเข้าสู่ธรรมมะ ไม่ได้ทำเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ลุอำนาจกิเลสตัณหาเข้าประหัตประหารทำลายผู้อื่น ไม่ใช่อย่างนั้น มุ่งเพื่อธรรมเป็นใหญ่ อันนี้เป็นอย่างนั้น มีความเมตตาอารีย์จริง ๆ ถ้าเขาต่อยนิดนึง
ถ้าเราสามารถทำสติให้สูงขึ้น ในการที่สองอย่างสมบูรณ์ เราตะล่อมจิตเข้าสู่สมาธิลำดับที่สองได้อย่างสมบูรณ์ ในเมื่อเข้าไปแล้วเป็นไง โอ้โห เอาแค่ประตูกำลังไต่เข้าไปไต่เข้าไปนี่นะ ก็น่าดู เรานั่งเนี่ยเหมือนกับว่า จะเหาะ จะลอย ขึ้นเลยนะ เหมือนเราไม่ได้นั่งที่พื้นนั้นเลยนะ เหมือนลอยอยู่บนอากาศ เบา หู ตา กาย จิต จะเบา ใจจะเบา เหมือนจะเหาะจะลอย เดินจงกรมก็เหมือนเราไม่ได้เหยียบลงไปที่พื้น เราก้าวไปมันหมดความรู้สึก มันเหมือนลอยไปลอยมา อันนั้นที่ว่าจวนเข้าจวนเข้าประตูแล้ว ประตูอุปจาระ อันนี้เข้าไปแล้ว เริ่มเข้าไป พอไปถึงประตูจริง ๆ เสียงจะหมดวูบลงไป หมดลงไปเลย พอเข้าไปถึงแล้วนี่ โอย อันความสุขทั้งหลาย ปิติ อำนาจทั้งหลายรวมตัวอยู่ที่นี่หมด ฐานนี้เป็นฐานอำนาจ ฐานกำลัง แม้นว่าจะเล่นฤทธิ์อะไรได้ทั้งนั้น ต้องการอะไรได้ทั้งนั้น อย่าว่าเลยแค่อะไรคนพูดนี่ อุ๊ยมาที่นี่ใหม่ ๆ เอาไงล่ะ เล่นฤทธิ์ถึงขนาดไหนหนอ เออ คนเก่งหน่อยก็ไล่ผีสะบั้น อะไรต่ออะไร สารพัดทุกอย่าง โอทำน่าดูก็แล้วกัน นี่เอามาจากฐานนี้ ฐานนี้ล่ะสำคัญ แต่แล้วจะได้มาวิชชาต้น บุพเพนิวาสานุสติวิชา เราเป็นใครมาจากไหน ระลึกชาติหนหลังถอยได้เรื่อย ๆ ๆ เพราะตอนนี้ไม่มีเสียงภายนอกกวน เป็นเรื่องของจิตกับสมาธิเข้าไปคุมกัน ความรู้เกิดจากจิต ความเข้าใจเกิดจากจิต สามารถกำหนดถอยหลังรู้ชาติของตนเองได้ นี่ มันประเสริฐอย่างนี้หนา ประเสริฐจริง ๆ ลองไปถึงซี่ ลองไปถึงซี่ รับรองได้ไม่มีอะไรเทียบได้
อันที่สาม ถ้าเรารักษาสติการที่สองได้อย่างสมบูรณ์นะ เราจะเข้าสู่จุดนี้ลึกเข้าไปอีก เสียงไม่มี นิ่ง เงียบ ไม่ได้ยินประสาทสมองทีนี้ เรื่องของจิตโดยเฉพาะ ปัญญาที่เกิดขึ้นมาจากญาณฌานแท้ ๆ แต่เป็นเพียงแค่อัปปนาสมาธิ ไม่ใช่ฌานญาณ โอ้โหอันนี้ล่ะนะ ญาติโยมทั้งหลายเอ๋ย ถ้าผู้ใดเข้าไปถึงแค่สามอันนี้ ประเสริฐจะรู้ได้ซะด้วยนะ พวกเราเป็นใครมาจากไหน เป็นใคร เราจะเกิดความสงสารกันขึ้น ด้วยเบื้องหลังของเราที่มองเห็น เกี่ยวข้องกันมาอย่างไร เราถึงจะก้าวไปสู่อันดับนี้ได้ เล่าผลเสียก่อนจึงจะเล่าเหตุให้ฟังในวันพระต่อไป ก็ขอยุติแค่นี้ เราจะได้บำเพ็ญกัน
เพราะนั้นการทำสมาธินั้นประเสริฐเลิศหาที่สุดมิได้ จะเอาเพียงแค่นิด ๆ มาเล่าสู่ฟัง ขอเวลาอีกนิดนึงนะ เอาแค่ขณิกะสมาธิเนี่ย นะ ถ้าเราทำสมาธิตะล่อมจิตให้อยู่ในวงแคบ เอาพุทโธเป็นคู่ของใจอยู่เสมอ พุทโธ พุทโธ ทำอยู่เสมอ เสมอ ตะล่อมอยู่ในวงแคบนี่ เอาแค่ตื้น ๆ ภพเบื้องต้น นิดเดียงนั่นเอง เอาแค่เข้าสู่ขณิกะสมาธินี่ จะซาบซึ้งที่สุด ดีที่สุดไม่มีอะไรเทียบ แต่ขณิกะนี่ไม่พ้นเสียงนะ เสียงได้ยินอยู่แต่ไม่รำคาญ ถ้าเสียงดัง ๆ ฟาดเปรี้ยงลงเนี่ยวูบขึ้นมา แต่ประคองลงได้ แต่ไม่พ้นเสียง แต่ประคองได้ แต่ความสุขเป็นอย่างไร โอ้โห ซาบซึ้งเหมือน ๆ ได้ยาทิพย์ชโลมไปทั้งตัว นั่งสามสี่ชั่วโมงสบาย ๆ ไม่มีทุกข์ ไม่กดไม่ดัน ไม่กดไม่กั้น ไม่มีอะไร มีแต่ความสุข ยาทิพย์ชโลมไปหมดทั้งตัวทุกเส้นทุกเอ็น สลายมีความสุขเหลือประมาณที่สุด อยากให้ลองดูซิ ได้แค่นี้จะได้มองเห็นหน้าเห็นตาของความสุข มาจากบรมสุข ไม่ใช่สุขเจืออภิราคะ เป็นความสุขแบบบรมสุข สุขจากใจจริง ๆ สุขจากความสงบ อยากให้ลองดู อยากให้ลองดู่แค่นี้ ประเสริฐที่สุดแล้ว ประเสริฐจริง ๆ ในเมื่อถอนสมาธิออกมาแล้ว รู้จักอกเขาอกเรา มีความเมตตาอารีย์ต่อผู้อื่น แม้นว่าเราจะดุเขาบ้างเราจะทำอย่างโน้นอย่างนี้บ้าง จุดเป้าหมายของเรามุ่งเพื่อธรรม ไม่ได้ทำเพื่อความฉิบหายตายโหง ทำเพื่อจะสงเคราะห์ ทำเพื่อจะนำพาเข้าสู่ธรรมมะ ไม่ได้ทำเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ลุอำนาจกิเลสตัณหาเข้าประหัตประหารทำลายผู้อื่น ไม่ใช่อย่างนั้น มุ่งเพื่อธรรมเป็นใหญ่ อันนี้เป็นอย่างนั้น มีความเมตตาอารีย์จริง ๆ ถ้าเขาต่อยนิดนึง
ถ้าเราสามารถทำสติให้สูงขึ้น ในการที่สองอย่างสมบูรณ์ เราตะล่อมจิตเข้าสู่สมาธิลำดับที่สองได้อย่างสมบูรณ์ ในเมื่อเข้าไปแล้วเป็นไง โอ้โห เอาแค่ประตูกำลังไต่เข้าไปไต่เข้าไปนี่นะ ก็น่าดู เรานั่งเนี่ยเหมือนกับว่า จะเหาะ จะลอย ขึ้นเลยนะ เหมือนเราไม่ได้นั่งที่พื้นนั้นเลยนะ เหมือนลอยอยู่บนอากาศ เบา หู ตา กาย จิต จะเบา ใจจะเบา เหมือนจะเหาะจะลอย เดินจงกรมก็เหมือนเราไม่ได้เหยียบลงไปที่พื้น เราก้าวไปมันหมดความรู้สึก มันเหมือนลอยไปลอยมา อันนั้นที่ว่าจวนเข้าจวนเข้าประตูแล้ว ประตูอุปจาระ อันนี้เข้าไปแล้ว เริ่มเข้าไป พอไปถึงประตูจริง ๆ เสียงจะหมดวูบลงไป หมดลงไปเลย พอเข้าไปถึงแล้วนี่ โอย อันความสุขทั้งหลาย ปิติ อำนาจทั้งหลายรวมตัวอยู่ที่นี่หมด ฐานนี้เป็นฐานอำนาจ ฐานกำลัง แม้นว่าจะเล่นฤทธิ์อะไรได้ทั้งนั้น ต้องการอะไรได้ทั้งนั้น อย่าว่าเลยแค่อะไรคนพูดนี่ อุ๊ยมาที่นี่ใหม่ ๆ เอาไงล่ะ เล่นฤทธิ์ถึงขนาดไหนหนอ เออ คนเก่งหน่อยก็ไล่ผีสะบั้น อะไรต่ออะไร สารพัดทุกอย่าง โอทำน่าดูก็แล้วกัน นี่เอามาจากฐานนี้ ฐานนี้ล่ะสำคัญ แต่แล้วจะได้มาวิชชาต้น บุพเพนิวาสานุสติวิชา เราเป็นใครมาจากไหน ระลึกชาติหนหลังถอยได้เรื่อย ๆ ๆ เพราะตอนนี้ไม่มีเสียงภายนอกกวน เป็นเรื่องของจิตกับสมาธิเข้าไปคุมกัน ความรู้เกิดจากจิต ความเข้าใจเกิดจากจิต สามารถกำหนดถอยหลังรู้ชาติของตนเองได้ นี่ มันประเสริฐอย่างนี้หนา ประเสริฐจริง ๆ ลองไปถึงซี่ ลองไปถึงซี่ รับรองได้ไม่มีอะไรเทียบได้
อันที่สาม ถ้าเรารักษาสติการที่สองได้อย่างสมบูรณ์นะ เราจะเข้าสู่จุดนี้ลึกเข้าไปอีก เสียงไม่มี นิ่ง เงียบ ไม่ได้ยินประสาทสมองทีนี้ เรื่องของจิตโดยเฉพาะ ปัญญาที่เกิดขึ้นมาจากญาณฌานแท้ ๆ แต่เป็นเพียงแค่อัปปนาสมาธิ ไม่ใช่ฌานญาณ โอ้โหอันนี้ล่ะนะ ญาติโยมทั้งหลายเอ๋ย ถ้าผู้ใดเข้าไปถึงแค่สามอันนี้ ประเสริฐจะรู้ได้ซะด้วยนะ พวกเราเป็นใครมาจากไหน เป็นใคร เราจะเกิดความสงสารกันขึ้น ด้วยเบื้องหลังของเราที่มองเห็น เกี่ยวข้องกันมาอย่างไร เราถึงจะก้าวไปสู่อันดับนี้ได้ เล่าผลเสียก่อนจึงจะเล่าเหตุให้ฟังในวันพระต่อไป ก็ขอยุติแค่นี้ เราจะได้บำเพ็ญกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น