ทุกท่านมีโอกาสร่วมสร้าง

ทุกท่านมีโอกาสร่วมสร้าง

ร่วมกด Like แชร์ข้อมูล เจดีย์กำลังก่อสร้าง ทุกท่านมีโอกาสร่วมสร้าง


พระธาตุหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย

พระธาตุหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
 

ประวัติความเป็นมาของพระธาตุ

พระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย)


ผู้ก่อตั้งวัดเขาสุกิม บูรพาจารย์ใหญ่วัดสาขาวัดเขาสุกิม

    หลายท่านมีความสงสัยตรงกันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องพระธาตุที่แปรสภาพมาจากโลหิต เกศาและ เล็บ เพราะได้ทราบกันโดยทั่วหน้าว่าสรีระร่างกายพระเดชพระคุณหลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโยคณะศิษย์ยังคงเก็บไว้บูชา ณ วัดเขาสุกิม ในเมื่อไม่ได้พระราชทานเพลิงหรือถวายเพลิงสรีระของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระธาตุมาจากไหน? มาได้อย่างไร?
    การลำดับความเป็นมาในครั้งนี้จึงขอไล่เรียงตั้งแต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯอาพาธ โดยเริ่มจาก ปีพุทธศักราช ๒๕๔๕พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพมหานคร มีการฟอกไตอาทิตย์ละ ๒ ครั้ง(ช่วงหลังก่อนการละสังขารฟอกไตอาทิตย์ละ ๓ ครั้ง) ก่อนฟอกไตคณะแพทย์ผู้ทำการรักษาได้เจาะโลหิต(เลือด)ไปตรวจก่อนแล้วจึงฟอกไต เวลาที่ฟอกไตนั้นก็จะมีโลหิตค้างอยู่ตามสายอีกเช่นเดียวกัน ช่วงแรกๆ คณะพระอุปัฏฐากติดต่อขอจากคณะแพทย์ แต่คณะแพทย์ไม่ยินยอมแล้วยังกล่าวว่าเป็นขยะเชื้อโรค เป็นของสกปรก แม้คณะพระอุปัฏฐากจะให้เหตุผลว่าโลหิตนี้เป็นธาตุขันธ์อีกอย่างหนึ่งของครูบาอาจารย์ไม่สมควรจะละเลยทิ้งขว้างให้เป็นบาปและควรนำมาเก็บไว้บูชาเป็นสิริมงคลอีกด้วย แต่ในเวลาต่อมาเมื่อคณะแพทย์ได้เห็นคุณธรรมความดีและความเคร่งครัดตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าแล้วนอกจากจะไม่ห้ามคณะพระอุปัฏฐากแต่ยังเก็บไปบูชาเสียเองด้วย นอกจากนี้เส้นเกศา เล็บ จีวรและของใช้ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯก็ได้นำกลับไปบูชากันด้วย
    เรื่องที่จะเขียนตรงนี้แม้จะไม่เกี่ยวกับพระธาตุแต่เป็นปฏิปทาที่น่าประทับใจอีกอย่างของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯนั่นคือ สมัยที่คณะลูกศิษย์นิมนต์พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯเข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาล พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯตอบไปว่า จะพาไปหาหมอที่ไหนก็ได้แต่ขออย่างเดียวอย่าให้หมอผู้หญิงโดนตัวก็แล้วกันพรหมจรรย์รักษามา ๓ ชาติแล้ว ชาตินี่ก็เกือบ ๖๐ ปีแล้วถ้ามีหมอผู้หญิงมาโดน ปล่อยให้ตายเสียดีกว่า
    ต่อมาพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย) ผู้ก่อตั้งวัดเขาสุกิม ผู้เป็นครูบาอาจารย์ใหญ่ของวัดสาขาทั้งหมด ละสังขารเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘ สร้างความเศร้าโศกแก่ลูกศิษย์โดยทั่วหน้าแต่กระนั้นคณะศิษย์ก็จัดงานถวายอย่างสมเกียรติจนสุดความสามารถ ปัจจุบันสรีระของพระเดชพระคุณหลวงปู่ยังคงเก็บไว้บูชา ณ วัดเขาสุกิม (ถ้ามีโอกาสควรไปกราบเพื่อความเป็นศิริมงคลของชีวิตนะครับ)
    เมื่อทราบที่มาของโลหิต เกศา เล็บแล้วว่ามาได้อย่างไร ต่อจากนี้จะเป็นที่มาของเรื่องพระธาตุ โดยเริ่มจากวันหล่อพระประธาน ณ ที่พักสงฆ์เขาจันทา (ธ) เมื่อปี ๒๕๔๗ อย่างที่ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯเป็นประธาน พระอาจารย์สุจิตย์(อ.สถิตย์)  ถิรจิตตฺโต ได้นำโลหิตของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯมามอบให้พระครูสังฆรักษ์วิสุทธิ์ วิสุทโธ (ประธานที่พักสงฆ์เขาจันทา)  พระอาจารย์ไพศาล  อภิวิสาโล นำโลหิต เกศา เล็บ แช่ไว้ในน้ำมันจันทร์มามอบให้ ซึ่งทั้งสองพระอาจารย์เป็นพระอุปัฏฐากของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระครูสังฆรักษ์วิสุทธิ์ฯจึงได้นำมาเก็บไว้บูชามีการสวดมนต์ไว้พระเป็นประจำ ภายหลังชุดที่พระอาจารย์ไพศาลฯแช่นำมันจันทร์มา ท่านได้แกะออกแล้วผึ่งจนแห้งใส่ตลับเก็บไว้บูชา
    ปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ พระภิกษุณัฎฐ์นันธ์  อนวชฺโช(ปัจจุบันเป็นประธานที่พักสงฆ์ป่าหนองตาโยย(ธ) จ.นครราชสีมา) ถวายโลหิตและผ้าซับโลหิตอีกชุดหนึ่ง ท่านพระครูสังฆรักษ์ฯ จึงนำมารวมกันเก็บไว้บูชาภายในตู้นิรภัย
    ปีพุทธศักราช ๒๕๕๑ ช่วงเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่ท่านพระครูสังฆรักษ์วิสุทธิ์ฯกำลังเปิดผอบดูโลหิตชุดของพระภิกษุณัฎฐ์นันธ์ฯ ก็พบว่าในผอบมีพระธาตุองค์เล็กๆ หลากหลายสีเกิดขึ้นจำนวนหนึ่งสร้างความปลาบปลื้มและยินดีให้ท่านพระครูเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาไม่นานชุดของพระอาจารย์ไพศาลฯก็มีการแปรสภาพเ เช่นเดียวกันในผ้าซับโลหิตก็มีพระธาตุปรากฏขึ้นมาด้วย ปัญหากลับไปตกอยู่ที่โลหิตชุดของพระอาจารย์สถิตย์ฯ ตอนแรกที่ได้ก้อนโลหิตมีขนาดเท่าหัวแม่มือ ภายหลังก็แตกเป็นก้อนเล็กๆ ต่อมาก็เกิดความชื้นและส่งกลิ่นเน่าอีกต่างหากชุดอื่นที่ท่านมีก็แปรสภาพเป็นพะธาตุกันแล้วเหลืออยู่ชุดเดียว ตอนหลังต้องเอาออกมาตากแดดไล่ความชื้นและกลิ่นเน่ากันเลยตากอยู่ ๓ ครั้งก็ไม่หายจนท่านพระครูสังฆรักษ์วิสุทธิ์ฯคิดในใจว่า พระอาจารย์สถิตย์ฯเอาโลหิตของปลอมมาให้หรือเปล่า โลหิตของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯไม่น่าเป็นอย่างนี้ ท่านก็เก็บเข้าตู้นิรภัยตามเดิม พอวันรุ่งขึ้นนำมาตากแดดใหม่ ขณะกำลังจะตากพอมองดูพบว่ามีพระธาตุเกิดขึ้นจำนวนหนึ่งเป็นสีดำล้วน ทำให้ข้อสงสัยมลายสิ้นไปและความปีติและตื้นตันเข้ามาแทนที่ในทันที
    ส่วนเรื่องที่หลายท่านชอบถามผู้เขียนว่าทำไมพระธาตุของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯจึงมีหลายสี ข้อนี้ขออธิบายว่าเป็นเรื่องบุญบารมีของครูบาอาจารย์ที่ท่านสั่งสมมาดีแล้ว จึงทำให้พระธาตุมีหลายสี ถ้าถามอีกว่ารู้ได้อย่างไรว่าบุญบารมีสั่งสมมาดีแล้ว ก็ขออธิบายว่าไม่ต้องไปดูที่ไหนไกลวัดเขาสุกิมนั่นแหละครับถ้าบุญบารมีไม่ดีพอจะสร้างวัดได้ใหญ่ขนาดนั้นหรือครับ อีกข้อหนึ่งปฏิปทาของพระเดชพระคุณท่านก็มั่นคงและเคร่งครัดตามแนวทางของพระอริยเจ้าอย่างแท้จริง เรื่องฤทธิ์เดชของพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านบอกว่าเป็นเพียงผลพลอยได้จากการปฏิบัติภาวนา ทุกท่านที่ภาวนาอย่างจริงจังสามารถมีได้แต่อย่าไปหวังที่จะเอาเพราะถ้าหวังจะไม่ได้อะไรเลย ให้ตั้งใจเอาความสงบของสมาธิเป็นพอ เรื่องพระธาตุของพระเดชพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯอย่าไปสงสัยเลยครับ เสียเวลาถ้าไปประมาทติเตียนก็เป็นบาปเปล่าๆ เดินหน้าปฏิบัติธรรมตามตามแนวคำสอนท่านดีกว่านะครับ


                                                                                     คณะศิษย์